วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557

ทริปทำผิวดำ @จันทบุรี วันที่สาม

วันพฤหัสที่ 19 มีนาคม 2557

เราตื่นกันประมาณตี 5 ทำข้าวผัดหอยนางรมเตรียมเอาไปกินที่ทะเล ขลุกขลัก วุ่นวายมากจึงออกจากบ้านสาย เลยอดดูอาทิตย์ขึ้นอีกตามเคย

เราไปถึงเชิงสะพานเป็นสถานที่แรก ที่นี่เงียบสงบ ดูสดชื่น รอบบริเวณดูสะอ้านสะอ้านเหมือนไม่มีการรุกรานจากนักท่องเที่ยว ครั้งสุดท้ายที่เห็นที่นี่ยังก่อสร้างอยู่เลย ตอนนี้มีศาลาหลายหลัง และรูปปั้นปลายักษ์ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน 2 อัน

รูปปั้นกลมกลืนกับสีคอสตูมวันนี้ สียังสดใสเหมือนเพิ่งสร้างเสร็จ มีรอยคราบดินติดที่ฟองคลื่นเหมือนกับมีใครพยายามปีนขึ้นไป

 

เรือประมงหลายลำทยอยกลับเข้ามาทางแม่น้ำ ส่วนอีกฟากของสะพานเป็นจุดมุ่งหมายต่อไปของเรา

มุมมองจากบนสะพานยามสาย ร่มเงามีเพียงใต้ศาลา ตอนกลางวันคงร้อนน่าดู

ทางขึ้นเขามองเห็นทะเลอยู่ข้าง ๆ ตรงทางโค้ง แอบมีหาดทรายเล็ก ๆ เรียกได้ว่าสวยแบบอ้างว้าง

ขอยอมจริง ๆ เราไม่สามารถเก็บภาพที่สวยเหมือนที่ตามองได้ในขณะนั้น แม้จะเป็นมุมโปรดที่ประทับใจมากก้อตามที

   

เลยทางโค้งมีลานจอดรถอยู่ ชมวิวจนฟิน แต่ตอนนี้ต้องหันหน้าชนกับแดดจ้า ๆ ตอนนี้ก้อประมาณ 7 โมง สักพักก้อมีรถตู้ที่บรรทุกนักท่องเที่ยวมาถามทางไปเที่ยวชายหาด แล้วเราก้อเดินทางกันต่อ

เราไปเขตเรือประมง แทบจะไร้ผู้คน ทะเลค่อนข้างราบเรียบ เขตน้ำตื้นกว้างมาก เรือลำเล็กจอดนิ่งเต็มไปหมดพร้อมใจกันหันหน้าเข้าหาทางเดิน ให้ความรู้สึกขลังจริง ๆ

ด้านซ้ายมือของเรา ตอนหันหน้าเข้าหาทะเล ดวงอาทิตย์อยู่ทางนั้น

ด้านขวามือของเรา

บรรยากาศเหมือนอยู่อีกมิตินึงเลย

 

 

เราไปนั่งกินข้าวผัดหอยนางรมกันริมหาด ลมพัดแรงทำให้ข้าวผัดที่ยังอุ่นอยู่เย็นลงอย่างรวดเร็ว แต่ก้อรสชาติก้อยังพิเศษเหมือนเดิม เสียดายแค่ไม่มีไข่ปลาหมึกปิ้งมาเป็นเครื่องเคียง

 

เราซื้อชาไข่มุกมานั่งกินกันข้างลานรอบกองไฟ มุกไม่สุกดี เราเลยพ่นเล่นใส่กันเลอะเทอะไปหมด โดยการชักจูงจากมีมี่ เราหัวเราะเฮฮาเหมือนในแก้วมีกัญชาเลยแหละ

หลังจากนั้นเราก้อเข้าไปเดินเล่นในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่อยู่ติดกัน มีกลุ่มเด็กจากหลาย ๆ โรงเรียนที่เข้ามาดูเหมือนกับกันเรา ฉันประทับใจน้ำใสสะอาดในตู้ มีสัตว์น้ำที่เราไม่ค่อยได้เห็นเยอะเลยจ้า เดินดูได้ซีกนึง ฉันก้อไปเข้าห้องน้ำ ให้ตายสิ ขี้ได้ทุกที่ที่ไปเที่ยวเลย ฟินมาก

   

เราได้เดินลอดอุโมงค์สัตว์น้ำที่มีทั้งฉลาม และกระเบนตัวใหญ่ด้วย

แล้วเราก้อมาดูเปลือกหอยนอติลุสที่แอบซ่อนอยู่

 

 

 

 

 

 

 

หลังจากนั้น เราไปศูนย์ศึกษาพัฒนาป่าชายเลน ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ก่อนเดินเข้าประตูมีนักเดินทางขอให้เราช่วยถ่ายรูปให้ แล้วเขาก้อถ่ายรูปให้เราด้วย

เราเพลินกับดูพฤติกรรมสัตว์กันที่ขอบทางเดิน เกิดสงครามน้อย ๆ ระหว่างปูสองตัว เห็นแล้วอยากกินส้มตำ

  

สีน้ำตาลออกแห้ง ๆ มาก น้ำก้อเหือดแห้งตามประสาหน้าร้อน ครั้งนี้แดดจัดกว่าที่เคยมาคราวก่อน ที่แม้จะถ่ายด้วยกล้องมือถือ แต่ก้อได้ภาพสีสดใสดูร่มรื่นกว่านี้

นกกระสาของมีมี่

ฉันรู้สึกเพลียแดด เหนื่อยล้า และง่วงนอน ฉันมองทะเลที่อยู่ไกลออกไปจากบนหอสูงนี้

เราเดินออกจากเขตป่าชายเลน และเจอกับรถขายไข่ปลาหมึก เราได้กินกันสมใจอยาก ผิวสัมผัสไข่ปลาหมึกก้อโอเค แต่แห้งไปหน่อย เดี๋ยวนี้หากินยากจริง ๆ

กินแล้วมีความสุข ถือว่าเป็นมื้อที่สองของวันนี้

ก่อนจะจาก เราถ่ายรูปป้ายไว้ซักหน่อยในฐานะที่มาเยือนที่นี่เป็นครั้งที่ 2 ฉันยังจำความประทับใจตั้งแต่แรกเห็นเมื่อครั้งแรกที่มาที่นี่ได้

เราออกไปตามหาทะเลกันต่อ มีมี่ขับมอเตอร์ไซด์เข้าซอยแล้วซอยเล่า แต่ก้อไม่เจอชายหาดที่เคยเล่นเมื่อครั้งก่อน เราแวะซื้อน้ำดื่ม ขนมปูไทยรสพริกไทยดำ (เพิ่งได้กินนะเนี่ย แซ่บมาก) และ crush มีแว่นตากันแดดมากมายให้เลือกในมินิมาร์ท แต่สุดท้ายก้อไม่มีอันไหนสมบูรณ์แบบเข้าตาฉันเลย

เราไปตามหาซอยนั้น ซอยที่เคยเข้าไปเจอทะเลเมื่อครั้งก่อน หลงอยู่นาน ในที่สุดก้อเข้ามาซอยเดิมที่คิดว่าน่าจะใช่ที่สุดแล้ว เพียงแต่มันดูเปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้ พื้นที่เดินและพื้นที่จอดรถแคบลงอย่างเห็นได้ชัด ข้างหน้ามีชายหาดและทะเลที่ฉันคิดถึง แต่บานาน่าโบ้ทและเรือสกีโผล่มาจากไหนไม่รู้ เต็มไปหมด

 

ชายหาดราบมาก ทรายเม็ดละเอียดสุด ๆ ถึงขนาดติดกางเกงว่ายน้ำ ล้างก้อไม่หลุด ฉันเพลินกับการให้คลื่นซัดแตกกระจาย ส่วนมีมี่ดูเมา ๆ บางครั้งก้อจมอยู่ใต้คลื่น ทุลักทุเลเห็นแล้วอดขำไม่ได้

มีมี่ถอดท่อนบนด้วย จิตใจไม่ค่อยสงบเลย ฮ่า ๆๆๆ หรือเป็นเพราะหอยนางรมกันนะ นี่เป็นรูปก่อนเล่นน้ำ กับหลังเล่นน้ำ ดูโทรมลงเลยแหละ

  

เราเล่นน้ำกันกลางแดดจ้านานที่สุดเท่าที่เคยทำ จนกระทั่งฉันโดนปูที่มองไม่เห็นหนีบเข้าที่นิ้วชี้ จนสะดุ้ง แล้วก้อมีเลือดซึมออกมา ฉันถึงได้ตัดสินใจขึ้ันจากทะเลซักที

มีเจ้าเหมียวเดินเข้ามาทักทายแล้วจากไปตรงที่ ๆ เราจอดอเตอร์ไซด์

เรานั่งมอเตอร์ไซด์กลับไปทางหาดแหลมสิงจุดหมายแรกของวันนี้ มีมี่อยากหาอะไรกินรองท้อง เช่นไก่ย่าง เราเจอตลาดนัดย่อม ๆ ข้างทาง แถวนี้มีป้ายขายไข่ปลาหมึกเพียบ แต่ไม่มีใครมาตั้งกันซักเจ้า

เราไปสั่งอาหารในร้านที่ดูดีที่สุดหน้าตลาดนัด ฉันสั่งตำข้าวโพดมาลองเป็นครั้งแรก เค้าใส่ปูมาให้ด้วย รสชาติสะเด็ดสะเด่ามากเลย เขี่ยพริกออกก้อโอเคล่ะ กินแล้วไม่แสบท้อง อิ่มด้วยข้าวโพดล้วน ๆ

มีมี่สั่งกระเพราะหมึก น่ากินซะจนอยากจะสั่งเหมือนมีมี่มาอีกจาน มีมี่แบ่งปลาหมึกให้ชิม ปลาหมึกหนึบหนับมาก ดูได้เยอะกว่าจานละร้อยกว่าบาทในร้านอาหารญี่ปุ่นซะอีก

ฉันถูกใจมากกับมื้อนี้ แถบนี้มีร้านอาหารทะเลมากมาย น่าประทับใจจริง ๆ

ข้างทางดูร่มรื่นและโรแมนติค แต่มีมี่เริ่มหลับใน เมื่อรถเริ่มเซ ฉันพยายามชวนมีมี่คุยระหว่างทาง

เรากลับบ้านแล้วอาบน้ำพักผ่อน พอค่ำ ๆ มีมี่พาไปกินข้าวต้มที่เดิมกับที่เคยกินครั้งก่อน ฉันสั่งข้าวต้มหอยนางรม มีมี่สั่งข้าวต้มทะเล

 

ฉันนั่งคิดถึงคืนวันเก่า ๆ ที่เคยดราม่ากับมีมี่ตอนกินข้าวต้ม ตอนนี้เหลือเวลาที่เราจะได้อยู่ใกล้ ๆ กันอย่างนี้น้อยเต็มที ฉันจึงต้องดื่มด่ำความรู้สึกดี ๆ อย่างนี้ไว้ การได้มาเที่ยวตลอดทริปที่นี่เป็นเหมือนความฝัน ที่ฉันรู้สึกใจหายเมื่อคิดว่าต้องกลับเข้าสู่โลกแห่งความจริงในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้

เราเดินไปร้านของหวานและนั่งกินที่ตรงนั้น มีเครื่องให้เลือกหลากหลาย เลือกได้ 3 อย่าง 20 บาท ฉันเลือกได้ในทันที่โดยไม่ต้องคิดนาน หลังจากนี้เราก้อไม่ได้ถ่ายรูปอาหารอีก ได้แต่เก็บไว้ในความทรงจำ

ถัดไปใกล้ ๆ เป็นร้านเช่าหนังอันลือชื่อ ที่เราเคยมาเมื่อคราวก่อน

เราเดินเข้าไปและเพลินอยู่ในร้าน มีหนังที่เจอในนั้นหลายเรื่องที่อยากดู แต่ไม่มีเวลาแล้ว เราพูดคุยกันถึงหนังเรื่องต่าง ๆ จนได้เวลาปิดร้าน แล้วเราก้อกลับบ้าน นี่คงเป็นรูปสถานที่สุดท้ายที่เราถ่ายในทริปนี้

 

หลังจากนั้น

เราอยู่ที่จันต่ออีก 1 วัน เรากินมื้อสายที่ร้านขนมจีนใกล้ ๆ บ้านมีมี่ และนั่งกินน้ำปั่นตรงเครื่องออกกำลังกาย

ตอนบ่ายมีมี่ส่งชิ้นส่วนคอมพ์ไปองครักษ์ทางไปรษณีย์ เราไปไปรษณีย์ในห้างโลตัส และช็อปของลดราคาในนั้น แล้วน้องมีมี่ก้อโทรให้มีมี่ไปรับ ฉันเดินเล่นรอในโลตัสต่อ สักพักก้อได้ยินเสียงฝนตกดังมาก ฉันรู้สึกคิดถึง และเป็นห่วงมีมี่ขึ้นมา ฝนตกอยู่นาน แล้วมีมี่ก้อกลับมาหาในสภาพเปียกมาก

เราคิดว่าวันต่อไปฝนคงตกอยู่สักระยะ รู้สึกดีจริง ๆ ที่ทริปของเราผ่านไปได้ด้วยดีก่อนที่ฝนจะมาเยือน

เราแวะตลาดแถวบ้านมีมี่ ตลาดเฉอะแฉะ และไม่มีของกินที่ถูกใจ แล้วมีมี่ก้อพาฉันไปซื้อยำแถวบ้าน ต้องรอคิวอยู่นานเลย

การลองกินยำกระพรุนครั้งแรกรู้สึกผิดหวัง รสชาติธรรมดา เผ็ดมาก แพงที่สุด และกระพรุนก้อเหนียว มีมี่ทำไข่ดาวมานั่งกินใกล้ ๆ ไข่ดาวมีมี่น่ากินสุด ๆ ระหว่างนั้นก้อดู Gladiator ไปด้วย ก้อยังดูไม่จบอีกเช่นเคย

วันสุดท้ายที่จัน อากาศครึ้ม ๆ เรากินมื้อสายกันระหว่างทางไปคิวรถตู้ ก๋วยจั๊บมีมี่น่ากินมาก แต่ฉันกินหมูไม่ได้ ฉันสั่งกระเพราปลาหมึก รสชาติธรรมดา ๆ

ฉันไปปลดปล่อยระหว่างรอขึ้นรถตู้รอบ 11 โมง รู้สึกดีจริง ๆ กับการแวะห้องน้ำได้แทบทุกที่ก่อนทำเรื่องสำคัญ ๆ มีมีขับมอเตอร์ไซด์ไปคืนที่บ้านและนั่งวินมา  แล้วเราก้อขึ้นรถตู้สายไปรังสิต พอเริ่มรู้สึกหิวก้อควักปาร์ตี้มากิน ฝนตกเฉอะแฉะเลย พอรถจอดเติมแก็ส เราก้อเดินไปเข้าห้องน้ำ

ทริปแถมท้ายจบด้วยการไปถึงรังสิตแล้วกินบุฟเฟ่ต์อาหารไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น