วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

บนถนน..สัญญาณไฟที่รอคอย!!!

เท่าที่จำได้ตั้งแต่เล็กจนโตเราแคร์กับสัญญาณไฟจราจรเสมอ ไม่เคยฝ่าไฟแดงแม้สักครั้ง ไฟเหลืองก็หยุดทันที เราขับรถกันแบบชิวๆในถนนบ้านนอก

วันนี้ฉันเริ่มไม่แคร์แล้ว ฉันยอมเป็นพวกนั้น พวกที่ฉันเคยจำแนกให้ได้ชื่อว่า..พวกตรงข้าม

เราสองคนอยู่บนมอเตอร์ไซค์ บนถนนที่แออัดคับคั่ง แบบฉบับของช่วงพีคทุกเช้าในเมืองหลวง

วันนั้นเรารอหยุดรอสัญญาณไฟมาเป็นเวลานานกว่าทุกวัน ได้แต่มองพวกตรงข้ามฝูงแล้วฝูงเล่า ขับฝ่าไฟแดงไปอย่างเกรี้ยวกราด หลายๆคันที่เคยหยุดข้างๆเราก็ทิ้งคราบพระเอก ออกตัวไปกันหมดแล้ว

....เหลือแค่เรา กลางแยกร้อนๆ ดมกลิ่นไอมลพิษชุ่มปอด


มันดีแล้วเหรอ ฉันเริ่มสงสัย

มันนานผิดปกติ ไฟจราจรคงเสียแน่ๆ

เหมือนคนอื่นจะชินชา และเราอ่อนต่อโลกแห่งท้องถนนไปเลยจริงๆ

คิดแล้วแค้นใจยิ่งนัก ที่อุตส่าห์รอสัญญาณไฟมานานเพื่อรักษาวินัยนั้นเพื่ออะไร เพื่อไปทำงานสายอย่างนั้นหรือ

เราตัดสินใจออกรถ ทิ้งให้ไฟสีแดงยังคงอ้อยอิ่งอยู่อย่างนั้น.........


วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เรามาหยุดรอที่แยกนี้อีกครั้งพร้อมกับมอเตอร์ไซค์ฝูงใหญ่

และแล้วก็เหมือนมีพลังงานบางอย่างชักนำให้ทุกคนออกตัวไป ทิ้งไฟแดงที่กำลังหัวเราะเยาะเอาไว้ 
เหลือเพียงมอเตอร์ไซค์ของเรา (ฉันพยายามบอกสารถีให้ขับออกไปเลย แต่สารถีอยากเป็นพระเอก) กับหนุ่มบิ๊กไบค์มาดพระเอกคันข้างๆ 

หนุ่มบิ๊กไบค์ดูเท่ห์ขึ้นมาทันที หน่วยก้านไม่เลว พ่อหนุ่มคนนี้คงปฏิเสธที่จะเป็นพวกตรงข้ามสินะ เรามีพวกแล้ว ฉันแอบตื้นตันใจ

สักพักก็มีภาพบาดตาบาดใจให้ชมระหว่างรออีก มอเตอร์ไซค์ฝูงใหม่เหมือนปลาเล็กปลาน้อยท่ามกลางมรสุมทะลุผ่านร่างเราไป เผชิญชะตากรรมกับปลาใหญ่ที่ว่ายตัดกันไปตัดกันมาอย่างไร้ระเบียบ

โคตรวุ่นวายเลย

ไฟยังคงแดงอยู่ ฉันต้องตกตะลึง!!!เมื่อได้มองนาฬิกาข้อมือ

สัญญาณไฟคงเสียอีกแล้ว ฉันนับถือภูมิปัญญาชาวตรงข้าม ที่ได้ค้นพบก่อนหน้าเรามาช้านาน

เราตัดสินใจทิ้งไฟแดงไว้เบื้องหลังอีกครั้ง หนุ่มบิ๊กไบค์ยังคงหยุดอยู่ตรงนั้น ฉันเดาว่าเขาคงไม่รีบ เผลอๆอาจจะตั้งใจมาทดสอบนับเวลาสัญญาณไฟเล่นๆก็เป็นไปได้

วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[รีวิว] ดักแด้ทอดกรอบ ตรา ไฮโซ!!!!

แมลงทอดเป็นอีกไอเทมหนึ่งที่เราโปรดปราน และเคยฝันว่าจะได้ทำแพคเกจดีๆส่งขายให้คนเข้าถึงได้มากขึ้น และแล้ววันนี้ก็มีคนทำออกมาจนได้ เราสองคนเจอมันใน Familymart สดๆร้อนๆเลยหยิบมาลองทันที (คุณจะได้พบกับมือดำๆ ของมีมี่น้อออยยย)


แมลงทอดรูปแบบซองเท่าที่เห็นในร้านมี 2 ชนิด คือตัวจิ้งหรีด กับ ดักแด้ เราเลือกดักแด้มาลองชิม (มีมี่น้อยของฉันกินจิ้งหรีดไม่ได้) มีด้วยกันสองรส คือ รสชีส และรสดั้งเดิม

เราชิมรสชีสกันก่อน พอเปิดซองเราก็พบกับหนอนไหมที่คุ้นเคยพร้อมกลิ่นจางๆของมัน สัมผัสแรกที่เข้าปากช่างเป็นแมลงอบแห้งจริงๆ กรุบกรอบทั้งนอกและใน ถ้าให้เปรียบเทียบกับรถเข็นคงต่างกันโดยสิ้นเชิง เจ้าซองนี้อารมณ์แบบขนมขบเคี้ยวที่พร้อมกินได้ทุกที่ทุกเวลา (แต่ครั้งหน้าขอบาย) ไร้ซึ่งความมันความนุ่มนิ่มชุ่มฉ่ำข้างใน ตามแบบของสแน็คบรรจุซองที่สามารถเก็บไว้ได้นาน มันคงต้องแลกกับรสชาติที่ดรอปไปจากรถเข็นต้นฉบับเป็นธรรมดา ซองนี้รสชีสเลือนรางยิ่งกว่าวิญญาณชีส แต่ถึงอย่างไรก็ยังเหลือรสชาติแห่งแมลงทอดให้เราได้รู้สึกบ้าง

แมลงทอดซองนี้เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ไม่กล้ากินแมลงแต่อยากลองกับเค้าบ้าง หรือคนที่ไม่ชอบแบบกลิ่นแรงๆ มันให้ความรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นประหนึ่งแมลงสังเคราะห์เลยทีเดียว


ปริมาณที่ได้ก็หลายตัวอยู่ ชดเชยกับมวลความชื้นที่หายไปเยอะ ดูภายนอกแล้วก็ยังน่ากิน ถึงแม้จะดูแห้งๆ สำหรับซองสีขาวรสดั้งเดิมจะเค็มไปอีกแบบ รู้สึกคุ้นเคยมากกว่า..สำหรับเราอ่ะนะ


ตอนนี้มีโปรลดราคาจากซองละ 25 บาท เหลือ 20 บาท จึงเป็นโอกาสเหมาะสำหรับคนที่คิดว่าจะไปโดน เราหวังว่าซักวันหนึ่งจะได้พบกับรถขายแมลงทอดอีกครั้ง และซื้อหนอนมากินให้หายคิดถึงเนื้อขาวๆ นุ่มนิ่ม นุ่มนิ่ม

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รีวิวลิปบาล์ม Made in USA ที่ติดกับเข้าให้แล้ว

ถึงคราวรีวิวอีกครั้งสำหรับลิปบาล์มอเมริกา หลังจากใช้มาสักระยะหนึ่งแล้วรู้สึกถูกใจแต่ละตัวจริงๆ คราวนี้ได้ซื้อ Burt's Bees เพิ่มมา เลยถือโอกาสรีวิวใหม่ทั้งหมด ไล่ตามลำดับที่ซื้อเลยจ้า



1. Carmex

อย่างแรกเมื่อคิดถึง Carmex ก็ต้องคิดถึงความชุ่มชื้นที่ไม่ธรรมดาของมัน อีกทั้งสามารถลบเลือนรอยแห้งแตกได้ไวมาก สำหรับนั้วไม่ว่าสถานการณ์ไหนๆ Carmex อย่างเดียวเอาอยู่จริงๆ
คุณภาพสวนทางกับราคา ยกให้เป็นรักแรก และที่หนึ่งของการบำรุงริมฝีปากไปเลย

จุดเด่น ชุ่มชื้นระดับฮาร์ดคอร์ เป็นเวลายาวนาน, ความเย็นที่สัมผัสกับริมฝีปากทุกครั้ง และกลิ่นแนว Medicine ที่ไม่เหมือนใคร
ระดับความเสพติด สูงมาก
ระดับราคา +




2. eos

แรกๆ ไม่ปลื้มลิปไข่ตัวนี้เท่าไหร่ เพราะกลิ่นเหมือนยางลบกับแอร์รถยนต์ แถมเนื้อลิปยังด้านๆ ไม่ชุ่มฉ่ำ พอพกติดกระเป๋าใช้บ่อยๆ ก็รู้สึกหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น กลิ่นเริ่มกลายเป็นหอมคิกขุ สงสัยโดนลิปไข่เล่นของซะแล้ว
เปรียบเสมือนม้ามืด พอรู้ตัวอีกที ลิปก้อนอ้วนๆ ก็แหว่งจนบางเลยทีเดียว
มันเป็นลิปขาลุย ด้วยรูปทรงที่บึกบึนแข็งแรง หยิบหาง่าย เปิด-ปิดสะดวกสุดๆ ใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็เสร็จกิจ แก้ปากแห้งได้ดีแต่ไม่นานเท่าไหร่ นั้วยกให้เป็นสุดยอดลิปที่เพลิดเพลินในการละเลงปาก

จุดเด่น เป็นลิป organicไม่มี petrolatum, เนื้อบางเบา, ทาได้บ่อยครั้ง, เปิดใช้ง่าย ทำสถิติทาเสร็จไวสุดๆ
ระดับความเสพติด ปานกลาง เพราะทาเฉพาะตอน outdoor
ระดับราคา ++



3. Smith's Mocha Rose

สำหรับนั้ว กลิ่นลิปนี้น่าหลงใหลมาก ทำให้นึกถึงวัยเด็กที่เคยเคี้ยวทอฟฟี่ช็อคโกแล็ต
เป็นลิปที่คงความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากได้นานมากทีเดียว นั้วชอบใช้แต้มปากก่อนทาลิปทินท์สีส้ม ด้วยความที่หวงมาก กลัวกระปุกเป็นรอย ทำให้มันยังคงถูกเก็บไว้ในลิ้นชักไม่เคยถูกพกไปไหน 

จุดเด่น ดีไซน์กระปุกสวยงามแบบย้อนยุค กลิ่นแรกสัมผัสหอมช็อคโกแลต ให้ความชุ่มชื้นสูง
ระดับความเสพติด สูง
ระดับราคา +++



4. Burt's Bees Tinted Lip Balm

สิ่งนี้ทำให้รู้ตัวว่าเมื่อเวลาผ่านไป ยิ่งซื้อลิปแพงขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ แพคเกจกระดาษอ้วนใหญ่ห่อหุ้มแท่งลิปที่อยู่ข้างในอย่างสวยงาม ดูเหมือนเนื้อลิปน่าจะหมดไวด้วย ให้ความชุ่มชื้นที่บางเบาเป็นเวลาสั้นๆ สีส้มสวยออกจางๆ กลิ่นแรกสัมผัสหอมประหลาด แล้วทุกอย่างก็จางลงไปอย่างรวดเร็วสำหรับลิปแท่งนี้ อารมณ์แบบ..ที่ผ่านมาแค่ฝันไป
อย่างไรก็ตาม ยังปลาบปลื้มในส่วนผสมที่อลังการงานสร้างของมัน หวังว่าถ้าใช้ไปนานๆ สักวันอาจจะกลายเป็นม้ามืดอย่าง eos ที่ขาดไม่ได้ยาม outdoor

จุดเด่น ส่วนผสมธรรมชาติ 100 % ไม่มี petrolatum, เป็นลิปบาล์มมีสี, กลิ่นหอมชื่นใจ
ระดับความเสพติด สูง เพราะติดกลิ่นหอม และยังเป็นช่วงเห่อของใหม่ 
ระดับราคา ++++

รีวิวอายเมคอัพเฉพาะกิจ ราคาประหยัด

เมื่ออายเมคอัพเก่าๆจากปีก่อนเริ่มหมด แถมยังใกล้รับปริญญาที่ต้องแต่งหน้า ก็เลยต้องซื้อเครื่องสำอางค์แต่งตาและคิ้วใหม่ยกชุด เน้นที่ราคาประหยัดและใช้ดีค่ะ


กว่าจะได้ทั้งชุดนี้ก็หาจากหลายแหล่งเลยค่ะ อ่านหลายรีวิว หาที่ขายถูกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปกติจะเขียนแค่ตาค่ะ แต่หลังจากนี้คงต้องหัดเขียนคิ้วด้วย สำหรับวันรับปริญญาที่กำลังจะมาถึง ถึงแม้นั้วจะไม่ชอบแต่งหน้าแบบจัดเต็มหรือแต่งสวยเริ่ดแบบจำหน้าเดิมไม่ได้ แต่นั้วก็เชื่อในการเลือกสิ่งที่ไปได้ดีกับหนังหน้าค่ะ



1. elf Eyelid Primer
สิ่งนี้นั้วไม่เคยใช้มาก่อนเลยค่ะ แต่ก่อนใช้แค่แป้งตลับเอามาตบเปลือกตาก็พอ ที่ซื้อมาเพราะเค้าว่ามันจะช่วยให้อายไลเนอร์ติดได้ดีขึ้น เปิดขวดครั้งแรกออกมาเป็นก้อนๆ เลย เจ้าตัวนี้แห้งไวมากต้องรีบเกลี่ยค่ะ ตอนเย็นๆ พบว่าตาเลอะ สรุปแล้วแป้งตลับก็พอแล้วล่ะค่ะ ไม่เคยเลอะอย่างนี้มาก่อนเลย ประหยัดกว่าอีก
คะแนน 3/5
ราคา 129 บาท



2. Cosluxe wanderlust Eyeliner
เป็นอายไลน์เนอร์หัวเรียวสวยที่เขียนทุกงานจริงๆ เขียนง่าย เขียนคม ประหยัดเวลา จนนั้วไม่อยากลองใช้ยี่ห้ออื่นอีกแล้ว เส้นสมำ่เสมอสุดๆ ตั้งแต่ที่เคยใช้แบบปากกามา ตอนที่หมึกแห้งนี่ใจแทบสลายเลยค่ะ ครั้งนี่ก็เพิ่งซื้อเป็นด้ามที่สอง พอเปิดใช้ก็พบกับความฟินเช่นเคย
คะแนน 5/5
ราคา 165 บาท



3. Mistine Prolong Big Eye
นั้วใช้มาสคาร่าได้ไม่กี่แบบเท่านั้น
หัวแปรงของมันจะต้องเป็นซี่ตรงๆห่างๆ สม่ำเสมอเป็นระเบียบคล้ายหวี
ยาวด้านหนึ่งสำหรับขนตาบน สั้นด้านหนึ่งสำหรับขนตาล่าง
เคยใช้หัวแปรงอื่นๆ แล้วมันไม่เวิร์คจริงๆ นั้วอาจจะไม่มีสกิลมากพอก็ว่าได้ แต่ใช้มาสคาร่าอย่างที่ว่าแล้วสบายใจ นั้วมีขนตาน้อย แล้วยังสั้นด้วย เลยต้องเลือกเป็นพิเศษ
สำหรับตัวนี้ ขนแปรงเป็นแบบที่โปรดปรานพอดี หาซื้อง่าย(เจอในร้านขายส่งทุกร้านเลย) ราคาถูกเหลือเชื่อ(เดินเปรียบเทียบหลายๆ ร้านค่ะ)
ผลดีเกินคาด ปัดได้ดีมาก ไม่ติดกันเป็นก้อน ขนตาหนายาวเรียงตัวสวย ล้างง่ายด้วยค่ะ
คะแนน 6/5 ให้เกินค่ะ
ราคา 61 บาท



4. Bisous Bisous Eyebrow Expert # Dark Brown
รับปริญญาต้องเปลี่ยนสีผมเป็นสีดำ ก็เลยต้องเปลี่ยนสีดินสอเขียนคิ้ว ตัวนี้มีให้เลือก 2 สี คือน้ำตาลอ่อน และน้ำตาลเข้ม ซื้อจาก Konvy ตอนลดราคา
แพคเกจสวยน่าหยิบจับ เพิ่งเคยใช้ปากตัดแบนเป็นครั้งแรก รู้สึกว่าเขียนง่ายขึ้น เนื้อติดดีขึ้น โยนด้ามเก่าทิ้งไปได้เลย แถมมีแปรงให้เกลี่ยอีก รู้สึกว่าเขียนคิ้วได้สวยขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
สำหรับคนคิ้วน้อย และมือใหม่เขียนคิ้วอย่างนั้ว ถูกใจตัวนี้มากเลย
คะแนน 5/5
ราคา 139 บาท