ทริปนี้ประกอบด้วยฉันกับเพื่อนซี้ที่ชื่อมีมี่ มีมี่เป็นคนขับรถ นี่เป็นครั้งแรกที่เราออกจาก กทม ไปจ สมุทรสงคราม
มันเป็นวันเสาร์ เวลากลางวัน ที่รถติดมาก ๆ พอออกจาก กทม หนทางก็ยังดูน่าเบื่อ ภูมิทัศน์แห้ง ๆ แดดแรงไร้ร่มเงา เต็มไปด้วยฝุ่น
ทางเข้าที่หมายในคลองโคลนลึกพอสมควร เราตั้งใจจะกินอาหารทะเลที่ ร้านเกษร คลองโคลน หลังจากได้ยินกิตติศัพท์ทางอินเตอร์เน็ต
มันเป็นวันเสาร์ เวลากลางวัน ที่รถติดมาก ๆ พอออกจาก กทม หนทางก็ยังดูน่าเบื่อ ภูมิทัศน์แห้ง ๆ แดดแรงไร้ร่มเงา เต็มไปด้วยฝุ่น
ทางเข้าที่หมายในคลองโคลนลึกพอสมควร เราตั้งใจจะกินอาหารทะเลที่ ร้านเกษร คลองโคลน หลังจากได้ยินกิตติศัพท์ทางอินเตอร์เน็ต
เราไปถึงตอนบ่ายแก่ ๆ มันเป็นร้านอาหารหน้าตาบ้าน ๆ กว่าที่คิด บรรยากาศสบาย ๆ เราเลือกที่นั่งริมน้ำ ซึ่งเป็นแค่คลองเล็ก ๆ ส่วนใหญ่เราจะก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียวโดยไม่สนใจดูรอบข้างเลย
เราอยากลองอาหารหลายอย่างมาก แต่มีกันแค่ 2 คน ก้อเกรงว่าจะกินไม่ไหว สุดท้ายอาหารก็เสิร์ฟไม่ครบ หายไป 2 อย่าง
เราก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร ขอสรุปมื้อนี้เลยละกัน
เราอยากลองอาหารหลายอย่างมาก แต่มีกันแค่ 2 คน ก้อเกรงว่าจะกินไม่ไหว สุดท้ายอาหารก็เสิร์ฟไม่ครบ หายไป 2 อย่าง
เราก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร ขอสรุปมื้อนี้เลยละกัน
1. ปูไข่ทะเลนึ่ง เป็นเมนูเด่นของที่นี่ ราคาแพงที่สุด ควรลองอย่างน้อยสักครั้ง เรากับมีมี่ 2 คนกินจานเล็ก (ครึ่งกิโล) 600 บาท จานใหญ่ 1 กิโล 800 บาท ประมาณเย็น ๆ คนที่เพิ่งมาถึง จะอดกินปูไข่ เหลือแต่ปูเนื้อเท่านั้น
2. ฉันถูกก้ามปูบาดนิ้ว เลือดไหล ขณะที่มีมี่แกะปูรัว ๆ เผลอแป๊บเดียว เปลือกปูกองเป็นภูเขาเลย
3. ฉันอดกินหมึกผัดกะปิ มีมี่อดกินไข่เจียวกุ้ง ร้านกลัวว่าเราสองคนจะกินไม่หมดรึไงนะ
4. นั่งไปสักพัก แมลงวันมาเป็นฝูง มันจะชอบตอมปูมาก
5. ราคาย่อมเยาว์ดี สมกับหน้าตา และปริมาณ แต่รสชาติมันเป็นเรื่องของแต่ละคนเนอะ ค่อยว่ากันต่อ
เมนูที่ฉันตั้งใจมากินเป็นอย่างมาก …
หอยหลอดผัดฉ่า ยิ่งกินเข้าไปยิ่งรู้สึกว่าเครื่องมันไม่อร่อย หนักทางหวานเกินไป เหมือนน้ำเชื่อมเลย รสของกระเทียมเจียวฉุนมาก จนไม่รู้สึกว่านี่คือผัดฉ่า ฉันนึกเสียดายหอยหลอด รูปร่างอวบ ๆ เต่งตึง ดูมีชีวิตชีวาของมัน นอนสงบนิ่ง เหมือนยอมสิโรราบให้กับความทารุณของคนทำอาหาร
เมนูถัดมา ยำชะครามหมึก
ฉันไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วมันคือยำหอมเจียวรึเปล่า ร้านนี้มันยิ่งตอกย้ำให้ฉันเกลียดอะไรเจียว ๆ มาก ทั้งแข็ง และกลิ่นฉุน หลังจากพยายามเขี่ยหอมเจียวทิ้ง ฉันก็สัมผัสถึงรสชาติหวานอมเปรี้ยวของน้ำยำในใบชะครามนุ่มลิ้น
เมนูต่อมา ปลาทูราดพริกขี้หนู
ปริมาณจุใจมาก ทั้งปลาทู 4 ตัว ทั้งเครื่อง นี่ก็เป็นเมนูที่ใส่กระเทียมเจียวมากเกินพอดี เหมือนใส่มาให้ทิ้งเลย
เมนูทั้งหมด น่าจะยอดเยี่ยมมาก ถ้าไม่มีอะไรเจียว ๆ ล้นจนเกินไป น่าเสียดายจริง ๆ สุดท้าย ปูคือเมนูเดียวที่ไม่ใส่ขยะลงไป น้ำจิ้มเค้าอร่อยมากด้วย
มื้อนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 1041 บาท รวมข้าว 2 จาน และน้ำเปล่า 1 ขวด ความอิ่มอยู่ในระดับดีมาก ความพอใจในรสชาติมีดรอปลงบ้าง
กว่าจะกินเสร็จก็มืดค่ำแล้ว เราเดินทางต่ออีกไม่ไกลก็ถึงบ้านคลองโคลนรีสอร์ท สถานที่ ๆ รุ่นน้องปี 3 จัดค่าย ภาพก็ไม่ค่อยได้ถ่ายเลย เพราะกล้องถ่ายในที่มืดไม่ดี พอประมาณ 1 ทุ่มก้อนั่งกินอาหารทะเลอีก เรียกได้ว่ากินต่อเนื่องเลยทีเดียว นั่งกินสักพักก็ท้องเสีย ลุกไปเข้าห้องน้ำอีก 2 รอบ ห้องน้ำก็ไกลมากด้วย ต้องเดินผ่านสะพานไม้แคบ ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะก้าวพลาดตกน้ำเมื่อไหร่
ปีนี้สถานที่จัดค่ายฉีกแนวไปจากปีอื่น ๆ ที่เคยอยู่ริมทะเล มีลมพัดสะใจ แต่ที่นี่เป็นรีสอร์ทเล็ก ๆ มีจุดเด่นตรงที่มีพื้นที่น้ำโคลน ให้ประกอบกิจกรรมค่าย และทางเดินสะพานไม้น่ารัก ๆ ค่ำคืนนี้ไม่ค่อยมีลมโชย บรรยากาศรอบ ๆ เหมือนทุ่งนาตอนปล่อยน้ำ รอบ ๆ รีสอร์ทเปลี่ยวมาก ยังมีแขกคนอื่น ๆ นอกจากเด็กของเราพักอยู่ด้วย สักพักก้อไม่มีอะไรให้เราค้นหาอีก เราไม่ดื่มด่ำกับมันมากนัก หลังจากกิจกรรมบายศรี เราสองคนเลยกลับกรุงเทพทันทีโดยไม่ลังเล ในขณะที่เพื่อน ๆ นอนค้างต่ออีกคืน