วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Q-Steer, Nostalgia toys


Photo1022
4 ปีก่อน รถแข่งจิ๋ว Q-Steer ของบริษัท Takara Tomy เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากในยุคนั้น
มันมีสีสันและขนาดที่ดึงดูด แถมยังบังคับได้ลื่นมาก
เด็กน้อยฝันอยากได้ Limited edition set จากเรื่อง Initial-D ตั้งแต่เห็นรูปมันในนิตยสาร
น่าเสียดายอยู่หน่อยตรงที่ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหน ส่วนราคามาเท่าไหร่ก้อสู้ไหว

พอปลายปี เด็กน้อยไปเรียนกวดวิชาในกรุงเทพ ฯสติเฟื่อง เลยตั้งใจว่าจะเป็นเจ้าของมันให้ได้
(ไม่ได้คิดจะตั้งใจไปเรียนเล้ยยยแลบลิ้นปลิ้นตา) เวลาว่างๆก้อเข้าไปดูแผนกของเล่นในห้างที่ใกล้ที่สุด
ทุกห้าง แต่ก้อไม่เจอ set นี้เลย จนระหว่างไปงานมหกรรมหนังสือ ฯ มีลางว่าต้องแวะ
เซ็นทรัลลาดพร้าว นั่นไงเจอเลย และซื้อเลย ฮี่ๆๆๆ ใครจะไปรู้ว่าเด็ก ตจว อย่างนี้
จะมีธุระกับเซ็นทรัลลาดพร้าวอีก จนกระทั่งสองปีต่อมาที่กลับจากกระบี่เเล้ว
ไปกินอาหารร้าน ZEN  เดินตามหา Macaroon ทั้งที่ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันชื่ออะไร
แต่เรื่องทั้งหมดก้อไม่เกี่ยวกับเจ้ารถจิ๋วนี่หรอก แต่มันทำให้คิดถึงเหตุการณ์ในเวลา
ใกล้กันได้เป็นร้อยๆ มองเห็นใบหน้าอดีตเพื่อนสนิทที่เคยพักด้วยกันช่วงกวดวิชาผู้มี
อารมณ์แปรปรวนและกร้านโลก หล่อนทำให้เด็กน้อยรู้จักการเดินทางคนเดียว
ในเมืองกรุงเป็นครั้งแรก มองเห็นบรรยากาศบนรถเมล์ที่เหมือนพายุเกือบทุกครั้งที่ขึ้น
มองเห็นพายุกลุ่มคนที่ตามหาหนังสือในงานมหกรรม ฯลฯ

4  ปีกว่าแล้วที่ Q-Steer มาอยู่ในมือพร้อมๆกับการเริ่มต้นออกเดินทางของชีวิต
นานๆทีถึงจะใส่ถ่านแล้วเล่นมันเหมือนรถบังคับทั่วไป เพราะมีความยุ่งยากของรีโมท
ที่ต้องขันน็อตในการใส่ถ่าน อีกทั้งยังต้องเอาถ่านออกทุกครั้งหลังจากเล่นเสร็จ
ต้องใช้ถ่านกระดุมที่รีโมท 2 ก้อน และที่ตัวรถอีก 2 ก้อน ต่อการเล่น 1 คัน เด็กน้อยขี้เกียจ
ใส่ถ่านบ่อยและไม่อยากให้มันเสื่อมสภาพไวเลยเล่นให้น้อยครั้งที่สุด
แค่ได้เห็นมันวางอยู่ใกล้ๆโต๊ะ ไม่ว่ากี่ปีก้อรู้สึกฟินแล้ววววว ตกหลุมรัก

นัวร์ไดอารี่ - ความคิดถึงสีเทา


ฉันนึกนามแฝงที่ลงตัวไม่ได้สักที เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันมีชื่อชั่วคราวว่า ปีโป้

ตอนเช้าฉันไปเรียนวิชาจิตวิทยา เข้าห้องสายด้วย

อันที่จริงไม่ได้อยากลงเรียน แค่ลงให้หน่วยกิจเต็ม  อาจารย์รุ่นเดอะเลย คุยเก่ง
เรื่องรอบตัวแน่นมาก แกบอกว่าปีนี้ปีสุดท้ายที่แกจะสอนพอดี งานที่แกสั่งคือต้อง
ไปให้คนอื่นบอกจุดแข็ง จุดด้อย แต่ละคนมา ลำบากใจจริงๆ
ฉันไม่อยากรู้เท่าไหร่หรอก เป็นคน sensitive กับเรื่องอย่างนี้ว่ะ รับไม่ได้

ฉันพยายามศึกษาเรื่องการเขียนเว็บเบื้องต้นด้วย Dreamwaver ยิ่งนานๆไป

ไม่ไหวจะเคลียร์ มันช่างยุ่งยากซับซ้อนกับเครื่องมือจัดแต่งหน้าเว็บให้งาม
เขียนโปรแกรมด้วย VS ยังจะเข้าใจง่ายกว่าอีก 

ตอนเย็นไปวิ่งฟิตเนส เพราะวันนี้ลำไยอบแห้ง(นามสมมติ)หนีไปกินข้าวซะแล้ว

ฉันไม่อยากวิ่งคนเดียวในสนามเมน ที่สำคัญ ฉันอยากวิ่งโดยไม่มีคนแซง มันก้อไม่เลว
ถ้าทำอารมณ์เย็นๆหน่อย ไปรับบัตรคิวก่อนครึ่งชั่วโมง ระหว่างรอก้อไปยืดเส้นยืดสาย 

6 โมงเย็นมาใหม่ แล้วก้อเข้าไปวิ่งๆๆ ลูกเดียว นานทีจะได้เข้ามาวิ่งในนี้  รู้สึกว่า
วิ่งด้วย Threadmill ยังไงก้อฟินสุด ไม่มีใครแซง วิ่งได้นานไม่มีเหนื่อย 

สังเกตว่าคนบางตากว่าสมัยก่อน ยิ่งตอนปี 1 ปี 2 รู้สึกชายหนุ่มเต็มไปหมด

นึกถึงสายตาที่เคยมองมา หลายๆคนที่ทักทาย พูดคุยกัน  แม้กระทั่งคนที่เคยเฝ้าดูฉัน
จากมุมนั้น คอยเทคแคร์ในช่วงเวลานั้น ถ้าเทียบกับตอนนี้แล้ว มันช่างเงียบเหงานัก

นี่คงเป็นธรรมดาของการที่เรากลายเป็นรุ่นพี่ปีสุดท้ายไปแล้ว ไม่มีคนแก่กว่าให้เชยชม
ในนี้แล้วสินะ ไม่มีใครให้ฉันได้กระชุ่มกระชวยเลย

เอาเถอะ กลับไปฉันยังมี มีมี่ เพื่อนสนิทที่น่ารักให้ปลุกปล้ำ

มีมี่ มีภารกิจในทีมสต๊าฟประชุมเชียร์ของคณะทุกเย็น นั่นก้อคือฉันจะต้องอยู่

ตามลำพังกว่า 4 ชั่วโมง จากปกติที่ตัวแทบจะติดกันอยู่แล้ว
ฉันเล่นเฟซบุ๊คขณะมีมี่ยังไม่กลับมา วันนี้นึกครึ้มใจเปิดดูเฟซบุ๊คบุคคลที่ลาออกไป
จากชีวิตเมื่อต้นปีก่อน ไม่อยากใช้คำว่าแฟนเก่าเลย

เขาคือ โมโม่ รุ่นพี่วิทย์กีฬาเรียนจบได้สองปีแล้ว ผู้ซึ่งเคยพัฒนา relationship น้อยๆ
ให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากในฟิตเนส เขามอบประสบการณ์ลืมไม่ลงให้กับฉันตลอดมา
เรื่องมันยาว และเข้มข้น จนเอาไปเขียนนิยายได้หลายเล่ม
แต่ตอนนี้ที่จะพูดถึงคือ ฉันดีใจที่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแฟนกับพี่เค้าแล้ว ดูจากรูปที่โพส
พี่เค้าดูอ้วนขึ้น ใบหน้ามีอายุบ่งบอกถึงความสาหัสในชีวิตที่เจอมา