เช้าวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2556 ฉันกับมีมี่เริ่มออกเดินทางจนถึงไบเทค บางนา อันที่จริงมีมี่มาธุระ ฉันก้อเลยมาเที่ยวด้วยจะได้เปลี่ยนบรรยากาศไปในที่ๆไม่เคยไปบ้าง เดินจากปากทางมาไกลพอดู ขึ้นอาคาร BITEC จากด้านหลัง ภาพเบื้องหน้าช่างได้ฟีลลิ่งจริงๆ มันดูเรียบๆมาก ดูใหม่ โล่ง ไม่ค่อยเห็นคน ทางเดินยาวมีสายพานเป็นช่วงๆ เดินแล้วฟินดี
มีมี่ผู้แบกหนังสือ เขียนโปรแกรมและพัฒนาแอปพลิเคชั่นด้วย VBA และ Excel ฉบับโปรแกรมเมอร์ ไปด้วย กำลังเดินแบบ Geekๆ
ฉันชอบกระจกที่มองเห็นข้างล่างได้ มุมมองที่กว้าง ข้างล่างเค้ากำลังก่อสร้างอะไรไม่รู้
เดินไปจนถึงจุดจัดงาน เด็กยั้วเยี้ยไปหมด ส่วนใหญ่มาเป็นโรงเรียน ที่แรกที่แวะเป็น Background ให้ถ่ายรูป
งานจัดกันหลาย hall แต่เดินแป๊บเดียวก้อหมด ฉันเดินอยู่หลายรอบระหว่างรอมีมี่ไปทำธุระ ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเบียดเสียดกับพวกเด็กๆที่ออกันในร้านจำหน่ายสินค้าที่ส่วนใหญ่เป็นของเล่น และได้พวงกุญแจติดไม้ติดมือมา พอเริ่มเบื่อฉันก้อเดินล่องลอยไปดูตามนิทรรศการต่างๆ
โมเดล Chimera หรือสัตว์พันธุ์ผสม หนึ่งในไฮไลท์ของงาน ตัวนี้ถือเป็นมาสคอตเลยก้อว่าได้ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะเด็กมุงดูกันหนาแน่น แวบแรกที่เห็นนึกถึงเกย์กำลังสวิงกิ้งกัน
ภาพซ้ายเป็นหุ่นยนต์ที่ดูสะดุดตาดี ส่วนภาพขวาเป็นปรากฏการณ์เด็กก้มมองหาหลังคาบ้านตัวเองจากแผนที่ดาวเทียมขนาดยักษ์
อาหารที่นี่แพงมาก ขายหมดไวด้วย ยกเว้นไอศกรีมโคนละ 20 บาทที่ขายทุก 5 เมตร Food Court ก้อแทบไม่มีที่ให้นั่ง เพราะเด็กแออัดเต็มไปหมดเลย แต่มีห้องน้ำเยอะดีเท่านี้ก้อโอเค
เดินไปเดินมาจนปวดข้อเท้าจนมีมี่เสร็จธุระ เราเปลี่ยนแผนการจากทีแรกที่จะไปห้างเซ็นทรัลบางนา ไปเป็นเดินเล่นที่ มศว ประสานมิตรแทน เลยนั่ง BTS ไปลงอโศก ข้างๆทางดูเป็นย่านไฮโซ ฝรั่งดูมีตังค์ ร้านอาหารต่างชาติชวนให้นึกถึงอ่าวนาง คิดถึงความรู็สึกไฮโซๆตอนนั้นจัง เดินไกลมากขาเริ่มล้าและรู้สึกหิว
พอถึง มศว ครั้งแรกที่ได้มา ก้อพบว่า อาคารเยอะสวยใช้ได้ มีคนมาทำกิจกรรม และออกกำลังกายบ้างประปราย ข้างในไม่มีอะไรขาย ร้านส่วนใหญ่ปิด เลยไปซื้อข้าวผัดปูในเซเว่นมานั่งกินกับมีมี่ที่น่าเซเว่น รู้สึกมีความสุขที่ได้นั่ง ใกล้กันมีตู้หยอดเหรียญข้าวปั้นสาหร่าย มันช่างยั่วยวนใจนัก เลยไปกดไส้เเซลมอลเทอริยากิมาแบ่งกับมีมี่คนละครึ่ง สงสัยว่าเป็นแซลมอลป่น หรือแซลม่อนหยอง แต่ก้ออร่อยดี
ก่อนออกไปเราถ่ายรูปกับอาคารนึงที่มีสระน้ำสีน้ำเงินรอบๆ ทำให้นึกถึงรีสอร์ท&สปา แล้วเดินขาลากกลับออกมาทางเดิม เพื่อไปต่อ MRT จากนั้นนั่งรถเมล์สาย 29 ไปลงฟิวเจอร์พาร์คฯ มันดูเป็นการนั่งที่ยาวนานมาก
เราเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อของใน Big C โดยเฉพาะขนมลดราคาทั้งหลาย ด้วยเวลาที่จำกัดทำให้ไม่ได้ไปแวะดูที่อื่นอีก พอออกห้างมาก้อเงิบที่วินรถตู้กลับ ม ตรงปากทางหายไปแล้ว เราลนลานเดินไปดูวินอื่นๆจนทั่ว ทั้งวิ่งข้ามสะพานลอยไปดูอีกฝั่ง แต่ความจริงที่ต้องยอมรับคือ ไม่มีรถตู้กลับแล้ว มีมี่ไม่นึกว่ารถตู้จะหมดไวขนาดนี้ อาจเพราะเป็นวันหยุด เรามองหาคนแชร์ค่าแท็กซี่กลับด้วย แต่ยืนดูอยู่นานก้อไม่มีทีท่าเลย จนมีรถตู้เสริมมา ที่คิดเงินแพงกว่าปกติ
เราโล่งใจมากที่ไม่ต้องเสียค่าแท็กซี่ รถตู้จอดรอผู้โดยสารคนอื่นๆอยู่นาน ระหว่างทาง โซเฟอร์แสดงความ Interactive กับผู้โดยสาร เยี่ยง Expert System การข้ามไฟแดงก้อเกรียนได้ใจ เขากล่าวว่า ผมไม่อยากติดไฟแดง เขาเลยเข้าไปกลับรถที่เลนอื่น ตอนตลาดองค์ก้อกลับรถได้น่าสะพรึงมาก
เรากลับมาถึง ม อย่างทุลักทุเล ส่วนใหญ่มีมี่ถือถุงของที่ซื้อมา สุภาพบุรุษมากมีมี่ โดยรวมแล้วทริปนี้รู้สึกฟิน ให้สามดาวครึ่งไปเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น