วันนี้ฉันเริ่มไม่แคร์แล้ว ฉันยอมเป็นพวกนั้น พวกที่ฉันเคยจำแนกให้ได้ชื่อว่า..พวกตรงข้าม
เราสองคนอยู่บนมอเตอร์ไซค์ บนถนนที่แออัดคับคั่ง แบบฉบับของช่วงพีคทุกเช้าในเมืองหลวง
วันนั้นเรารอหยุดรอสัญญาณไฟมาเป็นเวลานานกว่าทุกวัน ได้แต่มองพวกตรงข้ามฝูงแล้วฝูงเล่า ขับฝ่าไฟแดงไปอย่างเกรี้ยวกราด หลายๆคันที่เคยหยุดข้างๆเราก็ทิ้งคราบพระเอก ออกตัวไปกันหมดแล้ว
....เหลือแค่เรา กลางแยกร้อนๆ ดมกลิ่นไอมลพิษชุ่มปอด
มันดีแล้วเหรอ ฉันเริ่มสงสัย
มันนานผิดปกติ ไฟจราจรคงเสียแน่ๆ
เหมือนคนอื่นจะชินชา และเราอ่อนต่อโลกแห่งท้องถนนไปเลยจริงๆ
คิดแล้วแค้นใจยิ่งนัก ที่อุตส่าห์รอสัญญาณไฟมานานเพื่อรักษาวินัยนั้นเพื่ออะไร เพื่อไปทำงานสายอย่างนั้นหรือ
เราตัดสินใจออกรถ ทิ้งให้ไฟสีแดงยังคงอ้อยอิ่งอยู่อย่างนั้น.........
วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เรามาหยุดรอที่แยกนี้อีกครั้งพร้อมกับมอเตอร์ไซค์ฝูงใหญ่
และแล้วก็เหมือนมีพลังงานบางอย่างชักนำให้ทุกคนออกตัวไป ทิ้งไฟแดงที่กำลังหัวเราะเยาะเอาไว้
เหลือเพียงมอเตอร์ไซค์ของเรา (ฉันพยายามบอกสารถีให้ขับออกไปเลย แต่สารถีอยากเป็นพระเอก) กับหนุ่มบิ๊กไบค์มาดพระเอกคันข้างๆ
หนุ่มบิ๊กไบค์ดูเท่ห์ขึ้นมาทันที หน่วยก้านไม่เลว พ่อหนุ่มคนนี้คงปฏิเสธที่จะเป็นพวกตรงข้ามสินะ เรามีพวกแล้ว ฉันแอบตื้นตันใจ
สักพักก็มีภาพบาดตาบาดใจให้ชมระหว่างรออีก มอเตอร์ไซค์ฝูงใหม่เหมือนปลาเล็กปลาน้อยท่ามกลางมรสุมทะลุผ่านร่างเราไป เผชิญชะตากรรมกับปลาใหญ่ที่ว่ายตัดกันไปตัดกันมาอย่างไร้ระเบียบ
โคตรวุ่นวายเลย
ไฟยังคงแดงอยู่ ฉันต้องตกตะลึง!!!เมื่อได้มองนาฬิกาข้อมือ
สัญญาณไฟคงเสียอีกแล้ว ฉันนับถือภูมิปัญญาชาวตรงข้าม ที่ได้ค้นพบก่อนหน้าเรามาช้านาน
เราตัดสินใจทิ้งไฟแดงไว้เบื้องหลังอีกครั้ง หนุ่มบิ๊กไบค์ยังคงหยุดอยู่ตรงนั้น ฉันเดาว่าเขาคงไม่รีบ เผลอๆอาจจะตั้งใจมาทดสอบนับเวลาสัญญาณไฟเล่นๆก็เป็นไปได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น