พอหมดจากจิงโจ้ ฉันก็ไม่เคยมีกล่องดนตรีเป็นของตัวเองอีกเลย จนกระทั่งมาเห็นใน Aliexpress.com มันดูละลานตาไปหมด
กล่องดนตรีมีขายหลายร้าน หลายแบบมาก ฉันเลือกซื้อมา 3 ตัว
ตัวที่ 1 ยี่ห้อ Sancin เป็นโลหะ ราคาถูกสุด 3.82 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 128 บาท รวมกล่องอคริลิค (แบบเฉพาะตัวเครื่องจะราคาถูกกว่านี้) และแน่นอน made in china
แบบนี้คือชนิด Hand-cranked เพราะต้องหมุนอยู่เสมอจึงจะเกิดเสียง แอบรู้สึกเหมือนเป็นนักดนตรีเลย สำหรับตัวนี้เป็นเพลง Brahms Lullaby เพลงติดหูที่เพิ่งมารู้ชื่อทีหลัง ที่เคยฟังครั้งแรกสมัยเด็กนั่นเอง
แกนหมุนค่อนข้างฝืด พอหมุนจะมีเสียงเสียดสีเอี๊ยดอ๊าดระหว่างแกนหมุนกับเสายึดแกนปนอยู่ด้วย โดยรวมแล้วดนตรีไพเราะมาก ชวนฝัน กล่องอคริลิคก็ขับให้เสียงกังวาลมากขึ้น ถือว่าเหมาะสมกับการนำมากล่อมเด็กถ้าไม่ติดว่าต้องหมุนจนกล้ามขึ้นซะก่อน
ตัวที่ 2 ยี่ห้อ Sancin เหมือนกัน ลักษณะภายนอกจะคล้ายกับตัวแรก เพียงแต่เป็นสีทอง พิมพ์ป้ายสีทองข้างกล่องดูสวยเลอค่าขึ้น ราคาเพิ่มมาหน่อยเป็น 4.43 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 149 บาท
แกนหมุนหมุนได้คล่องมาก แต่จังหวะเพี้ยน โน้ตแปลกๆ ปนมาเยอะ แต่ก็ยังฟังเป็นเพลง Love Story อยู่
Love Story เป็นเพลงที่ประพันธ์โดย Francis Lai ให้อารมณ์หนักหน่วง เหมือนความรักที่กำลังจะดราม่าท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย นึกถึงหนังรักเกาหลี
ตัวที่ 3 ยี่ห้อ Sankyo แบรนด์ญี่ปุ่น วัสดุเป็นโลหะ งานสวยมาก ค่อนข้างหนัก เฉพาะตัวเครื่อง ราคา 5.63 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 189 บาท
แบบนี้คือชนิดไขลาน หรือที่เรียกว่า Clockwork หมุนลาน 3 รอบ เล่นได้ค่อนข้างนาน เลือกเพลง La Vie En Rose มา ได้บรรยากาศวินเทจ และโรแมนซ์สุดๆ เสียงใส นุ่ม โน้ตกับจังหวะสมบูรณ์แบบ ยกให้เป็นเบอร์ 1 เลย
ขึ้นชื่อว่ากล่องดนตรีก็ต้องอยู่ในกล่องถึงจะมีเสียงดังกังวาลขึ้นมา สำหรับตัวนี้ยังหากล่องไม่ได้
กล่องดนตรีเป็นสิ่งที่น่าหลงใหล เพราะความทรงจำดีๆพร้อมที่จะหลั่งไหลออกมาให้เราระลึกถึงวันเก่าๆ แค่เราหมุนมัน โลกก็เปลี่ยน มันมีกลไกเรียบง่ายสวยงาม เสียงเป็นเอกลักษณ์ จึงไม่มีอะไรแทนที่ได้ ทำให้เพลงที่อยู่ในความทรงจำของเรา ยังคงเป็นอมตะอยู่ข้างในกล่อง ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยไปปีแล้วปีเล่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น