วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

ลดน้ำหนักแบบประหยัดภายในสองสัปดาห์

เรื่องที่เล่านี้เป็นประสบการณ์ลดน้ำหนักของเจ้าของบล็อกด้วยตัวช่วยต่าง ๆ เหล่านี้ประกอบกัน เป็นเวลาประมาณ 3 เดือน ที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ไม่ฝืนใจ แถมยังมีความสุข ได้กินอะไรที่อยากกิน แต่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

จัดเต็มมื้อเช้า

ทุกอย่างที่อยากกิน เราไม่เกี่ยงปริมาณ และไม่สนใจว่าแคลอรี่จะมากแค่ไหน ทั้งหมดให้ใส่มันเข้าไปภายในมื้อเช้าถึงมื้อสายเท่านั้น ถ้าเลยไปแล้ว คงต้องเก็บความอยากไว้กินวันต่อไป จขบล็อกมักจะกินไม่หยุดปากเป็นชั่วโมง ๆ หน้าคอม ติดกันหลายวัน จนทั้งวันหลังจากนั้น กินอะไรแทบไม่ลงนอกจากเครื่องดื่ม



จำกัดตัวเลือกในการกิน

ข้อนี้อาจทำได้เฉพาะบางคน ต้องไม่กลัวที่จะสร้างความลำบากใจ หรือดูป่วยจิตในสายตาคนรอบข้าง เช่น จขบล็อกเลิกกินหมู และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (แม้จะเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ก้อตาม) มาได้ 5 ปีแล้ว เพราะเบื่อหมูมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีความคิดอยากจะกลับไปกินอีกเลย เวลาไปกินอาหารนอกบ้านจะทำให้มีตัวเลือกน้อยลง ข้อดีมากมายคือไม่ต้องคิดมากว่าจะกินอะไรดี ถ้าอันไหนไม่มีหมู ก้อกินอันนั้น ข้อเสียก้ออาจจะเป็นตอนไปนั่งกินกับคนหมู่มากที่เค้าต้องลำบากสรรหาเมนูที่เรากินได้มาให้



แอลคาร์นิทีน ดีแท้ หรือยาหลอก

สำหรับคนที่ไม่เคยกินผลิตภัณฑ์ อาหารเสริมมาก่อนอย่างจขบล็อก แอลคาร์นิทีน เป็นสิ่งเดียวที่น่าสนใจมากที่สุดในขณะนี้ เราจะไม่พูดถึงกลไกการช่วยลดน้ำหนักของมัน ว่าจะได้ผลจริงดังที่ใคร ๆ พูดถึงหรือไม่ ด้วยความที่ชอบออกกำลังกายอย่างบ้าคลั่งอยู่แล้ว มันอาจจะช่วยเร่งการเผาผลาญได้บ้าง หรือเป็นยาหลอก ก้อมีแต่ได้ทั้งนั้นถ้าคุณเป็นคนชอบออกกำลังกายเป็นทุนเดิม แต่กฏของจขบล็อกคือ ถ้าวันไหนไม่ได้ไปออกกำลังกาย ก้อจะไม่กินแอลคาร์นิทีนให้เป็นการสิ้นเปลือง เรียกได้ว่าถ้าวันไหนได้กิน ก้อต้องออกแรงฮึดให้มากกว่าปกตินั่นเอง
ส่วนใช้ตัวไหนนั้น จขบล็อกเน้นแอลราคาถูก (แต่ต้องเป็นของแท้) ซื้อซองเล็ก ๆ จากเซเว่นแค่มาลองกินดู กินวันละ 1 เม็ด ถึงตอนนี้ยังกินไม่หมดซองเลย


ออกกำลังกายอย่างหนัก

อย่างที่เจอมาจากตำราหลายเล่ม และการสนทนากับเด็กคณะวิทย์กีฬา การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 30 นาทีขึ้นไปจะช่วยดึงไขมันเก่า ๆ ในตัวออกไป ปกติจขบล็อกเป็นคนชอบวิ่งอย่างต่อเนื่อง (ไม่มีหยุดเดิน) เป็นเวลา 30 นาทีขึ้นไปมาตั้งแต่สมัย ม ปลายแล้ว จากประสบการณ์ ถ้าออกกำลังกายช่วงเย็นไม่หนักพอ กลับยิ่งจะทำให้รู้สึกหิว แถมเจริญอาหารอีก วิ่งจ๊อกกิ้งมาหลายปีจนเบื่อ (รองเท้าสึกไวมาก ต้องวิ่งบนสนามยางหรือเครื่องวิ่งเท่านั้น) การเปลี่ยนรูปแบบบ้างก้อน่าจะถนอมเข่ากว่า เริ่มแรกเลยไปกรรเชียงบก และยกน้ำหนักที่ฟิตเนสฟรีแถวบ้าน พอไม่นานเครื่องก้อเจ๊ง ฟิตเนสก้อดันปิดไวอีก เลยปั่นจักรยานเสือภูเขาทางไกลแทน นอกจากจะได้ผ่อนคลายกับบรรยากาศข้างทางแล้วยังตื่นเต้นกับการดมควันรถ ดมควันไฟเผาป่า


กินนมหรือโยเกิร์ตแทนอาหารมื้อเย็น

มื้อเย็นเป็นมื้อที่ไร้ความจำเป็นที่สุดสำหรับจขบล็อก (ยกเว้นกินเพื่อเชื่อมไมตรีจิต) ถ้าออกกำลังกายแทบตาย แล้วต้องมากินอะไรหนัก ๆ อย่างพวกคาร์โบไฮเดรต ไขมัน อย่างนี้นอนแช่น้ำปลาดีกว่า ร่างกายยังต้องมาลำบากย่อยอาหารให้เราอีก แต่อาหารบางอย่างเป็นข้อยกเว้น เช่นอาหารที่มีกากใยสูง เนื้อปลา และมาม่าที่ไม่ใส่น้ำมัน เป็นต้น บางครั้งมื้อเที่ยงก้อไม่ต้องกิน เพราะการเคี้ยวอาจทำให้เมื่อยปาก อีกทั้งอาหารอาจไปติดซอกฟัน แล้วยังทำให้มีกลิ่นปากอีกด้วย ถึงอย่างไรถ้าจะต้องหิววันยังค่ำ จขบล็อกจะซื้อนมกล่องมากิน ยิ่งช่วงนี้มีโปร ฯ จากเซเว่น ทั้งนมเปรี้ยว นมถั่วเหลือง นมวัวหวานชื่นใจ โยเกิร์ต บางทีต้องกินถึงสองกล่องต่อมื้อ ถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จะเริ่มชินเอง และรู้สึกสบายท้อง ถ้าเป็นไปได้ก้อกินนมเปรี้ยวตามหลังอาหารมื้อเที่ยง และมื้อเย็น



รีบแปรงฟันก่อนนอน

หลังแปรงฟันก้อตั้งเป้าไว้ว่าจะไม่กินอะไรอีก ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ยาสีฟันซู่ซ่าเหมือนกัดกร่อนเนื้อเยื่อปากเช่น ดาร์ลี่แอปเปิ้ล (จขบล็อกเคยใช้แค่ครั้งเดียว รู้สึกมันจะแรงไป)  คุณจะรู้สึกปากสะอาดจนไม่กล้ายัดอะไรเข้าไปอีก



จขบล็อกเป็นผู้หญิงอายุ 23 เดิมสูง 165 หนัก 55 ตอนนี้เหลือ 52 เท่าสมัย ม ต้น ถึงจะลดลงไม่กี่โลแต่รู้สึกดีใจมากที่หน้าท้องแบนราบ อีกทั้งแต่ก่อนไม่เคยน้ำหนักลดเหลือเท่านี้เลย จขบล็อกเชื่อว่าวิธีการลดน้ำหนักไม่มีสูตรที่ตายตัว แต่ถึงอย่างไรเจ้าของบล็อกขอเชียร์ให้เน้นการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าคุณติดการออกกำลังกายเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะลดน้ำหนักแค่ไหน ก้อไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557

ทริปทำผิวดำ @จันทบุรี วันที่สาม

วันพฤหัสที่ 19 มีนาคม 2557

เราตื่นกันประมาณตี 5 ทำข้าวผัดหอยนางรมเตรียมเอาไปกินที่ทะเล ขลุกขลัก วุ่นวายมากจึงออกจากบ้านสาย เลยอดดูอาทิตย์ขึ้นอีกตามเคย

เราไปถึงเชิงสะพานเป็นสถานที่แรก ที่นี่เงียบสงบ ดูสดชื่น รอบบริเวณดูสะอ้านสะอ้านเหมือนไม่มีการรุกรานจากนักท่องเที่ยว ครั้งสุดท้ายที่เห็นที่นี่ยังก่อสร้างอยู่เลย ตอนนี้มีศาลาหลายหลัง และรูปปั้นปลายักษ์ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน 2 อัน

รูปปั้นกลมกลืนกับสีคอสตูมวันนี้ สียังสดใสเหมือนเพิ่งสร้างเสร็จ มีรอยคราบดินติดที่ฟองคลื่นเหมือนกับมีใครพยายามปีนขึ้นไป

 

เรือประมงหลายลำทยอยกลับเข้ามาทางแม่น้ำ ส่วนอีกฟากของสะพานเป็นจุดมุ่งหมายต่อไปของเรา

มุมมองจากบนสะพานยามสาย ร่มเงามีเพียงใต้ศาลา ตอนกลางวันคงร้อนน่าดู

ทางขึ้นเขามองเห็นทะเลอยู่ข้าง ๆ ตรงทางโค้ง แอบมีหาดทรายเล็ก ๆ เรียกได้ว่าสวยแบบอ้างว้าง

ขอยอมจริง ๆ เราไม่สามารถเก็บภาพที่สวยเหมือนที่ตามองได้ในขณะนั้น แม้จะเป็นมุมโปรดที่ประทับใจมากก้อตามที

   

เลยทางโค้งมีลานจอดรถอยู่ ชมวิวจนฟิน แต่ตอนนี้ต้องหันหน้าชนกับแดดจ้า ๆ ตอนนี้ก้อประมาณ 7 โมง สักพักก้อมีรถตู้ที่บรรทุกนักท่องเที่ยวมาถามทางไปเที่ยวชายหาด แล้วเราก้อเดินทางกันต่อ

เราไปเขตเรือประมง แทบจะไร้ผู้คน ทะเลค่อนข้างราบเรียบ เขตน้ำตื้นกว้างมาก เรือลำเล็กจอดนิ่งเต็มไปหมดพร้อมใจกันหันหน้าเข้าหาทางเดิน ให้ความรู้สึกขลังจริง ๆ

ด้านซ้ายมือของเรา ตอนหันหน้าเข้าหาทะเล ดวงอาทิตย์อยู่ทางนั้น

ด้านขวามือของเรา

บรรยากาศเหมือนอยู่อีกมิตินึงเลย

 

 

เราไปนั่งกินข้าวผัดหอยนางรมกันริมหาด ลมพัดแรงทำให้ข้าวผัดที่ยังอุ่นอยู่เย็นลงอย่างรวดเร็ว แต่ก้อรสชาติก้อยังพิเศษเหมือนเดิม เสียดายแค่ไม่มีไข่ปลาหมึกปิ้งมาเป็นเครื่องเคียง

 

เราซื้อชาไข่มุกมานั่งกินกันข้างลานรอบกองไฟ มุกไม่สุกดี เราเลยพ่นเล่นใส่กันเลอะเทอะไปหมด โดยการชักจูงจากมีมี่ เราหัวเราะเฮฮาเหมือนในแก้วมีกัญชาเลยแหละ

หลังจากนั้นเราก้อเข้าไปเดินเล่นในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่อยู่ติดกัน มีกลุ่มเด็กจากหลาย ๆ โรงเรียนที่เข้ามาดูเหมือนกับกันเรา ฉันประทับใจน้ำใสสะอาดในตู้ มีสัตว์น้ำที่เราไม่ค่อยได้เห็นเยอะเลยจ้า เดินดูได้ซีกนึง ฉันก้อไปเข้าห้องน้ำ ให้ตายสิ ขี้ได้ทุกที่ที่ไปเที่ยวเลย ฟินมาก

   

เราได้เดินลอดอุโมงค์สัตว์น้ำที่มีทั้งฉลาม และกระเบนตัวใหญ่ด้วย

แล้วเราก้อมาดูเปลือกหอยนอติลุสที่แอบซ่อนอยู่

 

 

 

 

 

 

 

หลังจากนั้น เราไปศูนย์ศึกษาพัฒนาป่าชายเลน ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ก่อนเดินเข้าประตูมีนักเดินทางขอให้เราช่วยถ่ายรูปให้ แล้วเขาก้อถ่ายรูปให้เราด้วย

เราเพลินกับดูพฤติกรรมสัตว์กันที่ขอบทางเดิน เกิดสงครามน้อย ๆ ระหว่างปูสองตัว เห็นแล้วอยากกินส้มตำ

  

สีน้ำตาลออกแห้ง ๆ มาก น้ำก้อเหือดแห้งตามประสาหน้าร้อน ครั้งนี้แดดจัดกว่าที่เคยมาคราวก่อน ที่แม้จะถ่ายด้วยกล้องมือถือ แต่ก้อได้ภาพสีสดใสดูร่มรื่นกว่านี้

นกกระสาของมีมี่

ฉันรู้สึกเพลียแดด เหนื่อยล้า และง่วงนอน ฉันมองทะเลที่อยู่ไกลออกไปจากบนหอสูงนี้

เราเดินออกจากเขตป่าชายเลน และเจอกับรถขายไข่ปลาหมึก เราได้กินกันสมใจอยาก ผิวสัมผัสไข่ปลาหมึกก้อโอเค แต่แห้งไปหน่อย เดี๋ยวนี้หากินยากจริง ๆ

กินแล้วมีความสุข ถือว่าเป็นมื้อที่สองของวันนี้

ก่อนจะจาก เราถ่ายรูปป้ายไว้ซักหน่อยในฐานะที่มาเยือนที่นี่เป็นครั้งที่ 2 ฉันยังจำความประทับใจตั้งแต่แรกเห็นเมื่อครั้งแรกที่มาที่นี่ได้

เราออกไปตามหาทะเลกันต่อ มีมี่ขับมอเตอร์ไซด์เข้าซอยแล้วซอยเล่า แต่ก้อไม่เจอชายหาดที่เคยเล่นเมื่อครั้งก่อน เราแวะซื้อน้ำดื่ม ขนมปูไทยรสพริกไทยดำ (เพิ่งได้กินนะเนี่ย แซ่บมาก) และ crush มีแว่นตากันแดดมากมายให้เลือกในมินิมาร์ท แต่สุดท้ายก้อไม่มีอันไหนสมบูรณ์แบบเข้าตาฉันเลย

เราไปตามหาซอยนั้น ซอยที่เคยเข้าไปเจอทะเลเมื่อครั้งก่อน หลงอยู่นาน ในที่สุดก้อเข้ามาซอยเดิมที่คิดว่าน่าจะใช่ที่สุดแล้ว เพียงแต่มันดูเปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้ พื้นที่เดินและพื้นที่จอดรถแคบลงอย่างเห็นได้ชัด ข้างหน้ามีชายหาดและทะเลที่ฉันคิดถึง แต่บานาน่าโบ้ทและเรือสกีโผล่มาจากไหนไม่รู้ เต็มไปหมด

 

ชายหาดราบมาก ทรายเม็ดละเอียดสุด ๆ ถึงขนาดติดกางเกงว่ายน้ำ ล้างก้อไม่หลุด ฉันเพลินกับการให้คลื่นซัดแตกกระจาย ส่วนมีมี่ดูเมา ๆ บางครั้งก้อจมอยู่ใต้คลื่น ทุลักทุเลเห็นแล้วอดขำไม่ได้

มีมี่ถอดท่อนบนด้วย จิตใจไม่ค่อยสงบเลย ฮ่า ๆๆๆ หรือเป็นเพราะหอยนางรมกันนะ นี่เป็นรูปก่อนเล่นน้ำ กับหลังเล่นน้ำ ดูโทรมลงเลยแหละ

  

เราเล่นน้ำกันกลางแดดจ้านานที่สุดเท่าที่เคยทำ จนกระทั่งฉันโดนปูที่มองไม่เห็นหนีบเข้าที่นิ้วชี้ จนสะดุ้ง แล้วก้อมีเลือดซึมออกมา ฉันถึงได้ตัดสินใจขึ้ันจากทะเลซักที

มีเจ้าเหมียวเดินเข้ามาทักทายแล้วจากไปตรงที่ ๆ เราจอดอเตอร์ไซด์

เรานั่งมอเตอร์ไซด์กลับไปทางหาดแหลมสิงจุดหมายแรกของวันนี้ มีมี่อยากหาอะไรกินรองท้อง เช่นไก่ย่าง เราเจอตลาดนัดย่อม ๆ ข้างทาง แถวนี้มีป้ายขายไข่ปลาหมึกเพียบ แต่ไม่มีใครมาตั้งกันซักเจ้า

เราไปสั่งอาหารในร้านที่ดูดีที่สุดหน้าตลาดนัด ฉันสั่งตำข้าวโพดมาลองเป็นครั้งแรก เค้าใส่ปูมาให้ด้วย รสชาติสะเด็ดสะเด่ามากเลย เขี่ยพริกออกก้อโอเคล่ะ กินแล้วไม่แสบท้อง อิ่มด้วยข้าวโพดล้วน ๆ

มีมี่สั่งกระเพราะหมึก น่ากินซะจนอยากจะสั่งเหมือนมีมี่มาอีกจาน มีมี่แบ่งปลาหมึกให้ชิม ปลาหมึกหนึบหนับมาก ดูได้เยอะกว่าจานละร้อยกว่าบาทในร้านอาหารญี่ปุ่นซะอีก

ฉันถูกใจมากกับมื้อนี้ แถบนี้มีร้านอาหารทะเลมากมาย น่าประทับใจจริง ๆ

ข้างทางดูร่มรื่นและโรแมนติค แต่มีมี่เริ่มหลับใน เมื่อรถเริ่มเซ ฉันพยายามชวนมีมี่คุยระหว่างทาง

เรากลับบ้านแล้วอาบน้ำพักผ่อน พอค่ำ ๆ มีมี่พาไปกินข้าวต้มที่เดิมกับที่เคยกินครั้งก่อน ฉันสั่งข้าวต้มหอยนางรม มีมี่สั่งข้าวต้มทะเล

 

ฉันนั่งคิดถึงคืนวันเก่า ๆ ที่เคยดราม่ากับมีมี่ตอนกินข้าวต้ม ตอนนี้เหลือเวลาที่เราจะได้อยู่ใกล้ ๆ กันอย่างนี้น้อยเต็มที ฉันจึงต้องดื่มด่ำความรู้สึกดี ๆ อย่างนี้ไว้ การได้มาเที่ยวตลอดทริปที่นี่เป็นเหมือนความฝัน ที่ฉันรู้สึกใจหายเมื่อคิดว่าต้องกลับเข้าสู่โลกแห่งความจริงในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้

เราเดินไปร้านของหวานและนั่งกินที่ตรงนั้น มีเครื่องให้เลือกหลากหลาย เลือกได้ 3 อย่าง 20 บาท ฉันเลือกได้ในทันที่โดยไม่ต้องคิดนาน หลังจากนี้เราก้อไม่ได้ถ่ายรูปอาหารอีก ได้แต่เก็บไว้ในความทรงจำ

ถัดไปใกล้ ๆ เป็นร้านเช่าหนังอันลือชื่อ ที่เราเคยมาเมื่อคราวก่อน

เราเดินเข้าไปและเพลินอยู่ในร้าน มีหนังที่เจอในนั้นหลายเรื่องที่อยากดู แต่ไม่มีเวลาแล้ว เราพูดคุยกันถึงหนังเรื่องต่าง ๆ จนได้เวลาปิดร้าน แล้วเราก้อกลับบ้าน นี่คงเป็นรูปสถานที่สุดท้ายที่เราถ่ายในทริปนี้

 

หลังจากนั้น

เราอยู่ที่จันต่ออีก 1 วัน เรากินมื้อสายที่ร้านขนมจีนใกล้ ๆ บ้านมีมี่ และนั่งกินน้ำปั่นตรงเครื่องออกกำลังกาย

ตอนบ่ายมีมี่ส่งชิ้นส่วนคอมพ์ไปองครักษ์ทางไปรษณีย์ เราไปไปรษณีย์ในห้างโลตัส และช็อปของลดราคาในนั้น แล้วน้องมีมี่ก้อโทรให้มีมี่ไปรับ ฉันเดินเล่นรอในโลตัสต่อ สักพักก้อได้ยินเสียงฝนตกดังมาก ฉันรู้สึกคิดถึง และเป็นห่วงมีมี่ขึ้นมา ฝนตกอยู่นาน แล้วมีมี่ก้อกลับมาหาในสภาพเปียกมาก

เราคิดว่าวันต่อไปฝนคงตกอยู่สักระยะ รู้สึกดีจริง ๆ ที่ทริปของเราผ่านไปได้ด้วยดีก่อนที่ฝนจะมาเยือน

เราแวะตลาดแถวบ้านมีมี่ ตลาดเฉอะแฉะ และไม่มีของกินที่ถูกใจ แล้วมีมี่ก้อพาฉันไปซื้อยำแถวบ้าน ต้องรอคิวอยู่นานเลย

การลองกินยำกระพรุนครั้งแรกรู้สึกผิดหวัง รสชาติธรรมดา เผ็ดมาก แพงที่สุด และกระพรุนก้อเหนียว มีมี่ทำไข่ดาวมานั่งกินใกล้ ๆ ไข่ดาวมีมี่น่ากินสุด ๆ ระหว่างนั้นก้อดู Gladiator ไปด้วย ก้อยังดูไม่จบอีกเช่นเคย

วันสุดท้ายที่จัน อากาศครึ้ม ๆ เรากินมื้อสายกันระหว่างทางไปคิวรถตู้ ก๋วยจั๊บมีมี่น่ากินมาก แต่ฉันกินหมูไม่ได้ ฉันสั่งกระเพราปลาหมึก รสชาติธรรมดา ๆ

ฉันไปปลดปล่อยระหว่างรอขึ้นรถตู้รอบ 11 โมง รู้สึกดีจริง ๆ กับการแวะห้องน้ำได้แทบทุกที่ก่อนทำเรื่องสำคัญ ๆ มีมีขับมอเตอร์ไซด์ไปคืนที่บ้านและนั่งวินมา  แล้วเราก้อขึ้นรถตู้สายไปรังสิต พอเริ่มรู้สึกหิวก้อควักปาร์ตี้มากิน ฝนตกเฉอะแฉะเลย พอรถจอดเติมแก็ส เราก้อเดินไปเข้าห้องน้ำ

ทริปแถมท้ายจบด้วยการไปถึงรังสิตแล้วกินบุฟเฟ่ต์อาหารไทย